มะม่วงเป็นผลไม้ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ในวันนี้ทาง รถไถ อิเซกิ เจพีที แทรกเตอร์ โคราช ปากช่อง ลำนารายณ์ จะมานำเสนอ เทคนิค การปลูกมะม่วงให้ได้ผลผลิตดี โดยมะม่วงมีสายพันธ์ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเช่น เขียวเสวย แรด น้ำดอกไม้ โชคอนันต์ อกร่อง ดังนั้นผลมะม่วงนำมารับประทานได้ทั้งดิบและสุก มะม่วงดิบเปลือกสีเขียวเนื้อสีขาวส่วนใหญ่มีรสเปรี้ยว ยกเว้นบางพันธุ์ที่เรียกว่ามะม่วงมัน ส่วนผลสุกจะมีสีเหลืองทั้งเปลือกและเนื้อ รับประทานสด หรือ นำไปทำเป็นอาหารเช่น ข้าวเหนียวมะม่วง อีกทั้งมีการนำไปแปรรูป เช่น มะม่วงแก้ว มะม่วงดอง มะม่วงแช่อิ่ม มะม่วงเค็ม น้ำแยมมะม่วง พายมะม่วง เป็นต้น ดังนั้นชาวสวนชาวเกษรตร จึงหันมาปลูกเพื่อหารายได้เสริมต่อปี ดังนั้นเราจึงต้องเรียนรู้ปัจจัยสำคัญในการปลูกมะม่วง

**กลยุทธ์สำหรับการวางแผนในการปลูกมะม่วงให้ประสบผลสำเร็จ


1.การเลือกพื้นที่ให้มีความเหมาะสมกับพืชที่ปลูก การเตรียมดินและ ปรับสภาพพื้นที่ให้เหมาะกับการเพาะปลูก หรือขนย้าย ต่าง ๆ รวมถึงรถไถ แทรกเตอร์ เพื่อให้สะดวกต่อการเข้าทำงาน เก็บเกี่ยวผลผลิต ควรมีระยะห่างของต้นให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน

2.ใช้มะม่วงพันธุ์พื้นบ้านมาใช้เป็นต้นตอ ปกติแล้วพันธุ์มะม่วงพื้นบ้านหรือดังเดิม จะมีความทดทานต่อโรคโดยธรรมชาติ จึงทำให้เหมาะสมแก่การเพาะปลูกเป็นอย่างยิ่ง

3.การจัดการสวนที่ลงตัว ศึกษาระยะเวลาการปลูก วิธีการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมเ เละปลูกโดยยึดหลักการปลูกมะม่วงตามธรรมชาติ

4.ผลผลิตคุณภาพต้องมาจากคนคุณภาพ เกษตรกรผู้ปลูกอย่าหยุดการเรียนรู้ ควรหมั่นศึกษา หรือปรึกษา กับนักวิชาการต่างๆ รวมถึง เกษตรกรหลายๆท่าน เพื่อจะได้พัฒนาเทคนิค องค์ความรู้ต่างๆต่อไป 5.หาตลาดให้หลากหลาย เกษตรกรควรมีหลายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อลดความเสี่ยง ในการกระจายสินค้า ไม่ขึ้นกับพ่อค้าคนกลางอย่างเดียว อาจจะจัดทำ กลุ่มสมาชิก ในการต่อรอง และ ทำการตลาดออนไลท์ ไปด้วยเช่นกัน

4เทคนิคทำให้มะม่วงผลผลิตดีโดยไม่ใช้สารบังคับต้น

1.การใช้มะม่วงสายพันธุ์พื้นบ้านเป็นหลัก เช่น มะม่วงแก้ว มะม่วงตลับนาค เพราะมะม่วงที่ทนทานทนแล้ง และน้ำท่วมก็ยังไหว รากของมะม่วงชนิดนี้หาอาหารเก่งโดยเฉพาะพันธุ์ตลับนาค เป็นพันธุ์ที่ง่ายต่อการเปิดเปลือกสำหรับเสียบยอดและใช้พันธุ์มะม่วงเขียวเสวย โชคอนันต์ น้ำดอกไม้เบอร์ 4 น้ำดอกไม้สีทอง เเละมหาชนกมานำมาเสียบยอด เพื่อจะให้ทนทานต่อแมลง และโรคต่างๆ อีกทั้งยังตอบโจทย์ของตลาดอีกด้วย

2.ปลูกให้ระยะที่เหมาะสมคือ 6x2 เมตร หรือ 1 ไร่ปลูกได้ประมาณ 133 ต้น เป็นระยะที่ดีได้ปลูกมะม่วงได้มากขึ้น และยังเหมาะสุดกับรถไถ แทรกเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ เข้ามาในสวนได้ง่ายอีกต่างหาก สิ่งสำคัญที่สุดคือการ คือรัศมีของพุ่มและความสูงของต้นมะม่วงอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าไม่ใช่กิ่งมะม่วงจะสูง ทำให้อากาศและแสงแดดจะผ่านได้น้อย มีผลต่อการเกิดโรคและแมลงมากขึ้น โดยยึดหลักการปลูกแบบไม่ฝืนธรรมชาติ โดยเตรียมต้นให้พร้อมและสมบูรณ์ เพื่อให้ต้นมีมีอาหารเพียงพอ ทำให้สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในเดือน มิ.ย.- ก.ค.
“ถ้าอยากจะปลูกมะม่วงนอกฤดู ถ้าต้นไม่สมบูรณ์ อาหารในต้นไม่พอ อายุ ขนาดของต้น ไม่สมดุลกัน และใช้สารเคมีเร่งออกดอกโดยไม่มีการพักต้น จะทำให้ผลผลิตต่ำและไม่ได้ราคา"

3. เกษตรกรควรศึกษาหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ควรปรึกษาแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงาน นักวัชาการ นักวิจัย เพื่อนำความรู้ ใหม่ ๆ มาพัฒนาสวนของเราให้ดียิ่งๆขึ้นไป

4. ศึกษาตลาดเป็นประจำว่า แนวโน้วของตลาดว่า ตอนนี้ตลาดต้องการอะไรพันธุ์ไหน เพื่อที่จะวางแผนสำหรับการปลูก และวางแผนรายจ่าย ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงแรงงาน ดูพยากรณ์อากาศด้วยอีกทีและจุดคุ้มทุนในการปลูก รวมถึงเรายังสามารถ แปรรูปมะม่วง เพื่อเพิ่มมูลค่าของให้ดีมากยิ่งขึ้น

ที่มา : กรมส่งเสริมวิชาการเกษตร เเละหนังสือวารสารเคหเกษตร