สวัสดีค๊าบ ผมป๊อกนะครับ เคยสงสัยกันไหมครับว่า ข้าวโพดที่เรา กินหรือเลี้ยงสัตว์ที่เรารู้จักกันดี มีประวัติความเป็นมายังไง วันนี้ทางช่อง รถไถ อิเซกิ แมสซี่ย์ เจพีที แทรกเตอร์ ได้ทำซีรีย์ ข้าวโพด นะครับ ว่ามีประวัติความเป็นมา ชนิดของ แต่ละประเภท รวมถึง วิธีการปลูก เก็บ เลือกเมล็ดพันธุ์ ใส่ปุ๋ยเลือกเครื่องจักรกลการเกษตร แบบไหน
โดยอาทิยต์นี้ เราก็จะมาเริ่มจาก จุดกำเนิดกันเลยนะครับ ว่าข้าวโพดมาจากไหน เข้ามาเมืองไทยได้ยังไง รวมถึง ใครเป็นคนเอาเข้ามา พร้อมกันรึยังครับ ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย เพราะช่องเราไม่ได้มีแต่เรื่องรถไถนะครับ
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า ข้าวโพด (Maize) เป็นพืชตระกลูหญ้านะครับ มีอายุสั้น เพียงฤดูกาลเดียว โตง่าย เป็นพืชจำจำพวก บาสซ่า มีรากชั่วคราวเรียกว่าไพรีนะครับหลังจากที่ข้าวโพดเจริญเติบโตได้ประมาณ 7-10 วัน รากถาวร งอกขึ้นรอบๆนะครับข้อปล้อง ในระดับใต้พื้นดินประมาณ 1 ถึง 2 นิ้ว ส่วนเจ้ารากถาวร เนี่ยครับพอมันเจริญเติบโตแล้ว เนี่ยก็จะแผ่ออกไปประมาณ 100 cm นะ

รากข้าวโพดเป็นระบบรากฝอย(fibrous root system)นะครับนอกจากรากที่อยู่ใต้ดิน และยังมีรากยึดเหนี่ยว(brace root)เนี่ยซึ่งเกิดรอบข้อที่อยู่ใกล้ผิวดินด้วยนะครับ ลำต้นมีลักษณะตรงแข็งแรงเนื้อแก่นด้านในนะครับคล้ายฟองน้ำนะมีความสุงประมาณ 1.4 เมตรลำต้นมี ข้อ (node) และปล้องนะครับ(internode) โดยปกติแล้วนะครับ ปล้องที่อยู่ใต้ดินและใกล้พื้นดินหน่อยครับมันจะค่อยๆยาวขึ้นไปทางด้านปลายให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆนะครับโดยปกติแล้วเนี่ยจะมี ปล้องสูงจากพื้นดินประมาณ 8 ถึง 20 ปล้องนะครับ ลำต้นนะ ลำต้นสดมีสีเขียวใบยาวรีนะครับเป็นเส้นตรงปลายแหลมยาวประมาณ 30 ถึง 100 เซนติเมตร เส้นกลางของใบนะครับจะได้ชัดเจนนะตรงขอบใบนะครับมีขนอ่อนๆ มีเขี้ยวใบนะครับ ลักษณะของใบรวมทั้งสีของใบแตกต่างกันไป แล้วแต่ชนิดของพันธุ์นะครับบางพันธุ์มีใบสีเขียว บางพันธุ์มีใบสีม่วง บางพันธุ์มีใบลายนะครับ จำนวนใบก็เช่นกันนะครับอาจจะมีตั้งแต่ 8 ถึง 48 ใบกันเลยทีเดียวนะดอกตัวผู้และตัวเมียนะอยู่ในต้นเดียวกัน ช่อดอกตัวผู้จะอยู่ส่วนยอดของลำต้นนะครับส่วนเจ้าช่อดอกตัวเมียน่ะจะอยู่ต่ำลงมาณบริเวณกาบของใบและลำต้นนะ

ในส่วนของลำต้นช่อดอกตัวผู้นะครับ(tassel) อยู่ตอนบนสุดของลำต้นดอกตัวผู้ดอกนึ่ง จะมีอับเกสร (anther) 3 อับ ส่วนดอกตัวเมียอยู่รวมกันเป็นช่อๆนะครับเกิดขึ้นตอนข้อกลางของลำต้นนะโดยเจ้า ฝัก ที่เกิดขึ้นนะครับเกิดจากดอกตัวเมียที่เจริญเติบโตแล้ว พอแก่แล้วก็จะมีสีออกนวลๆนะครับ
ถิ่นกำเนิดของข้าวโพด เป็นที่ยอมรับกันแล้วนะครับว่าถิ่นกำเนิดของข้าวโพดเนี่ยอยู่ที่ทวีปอเมริกานะครับ โดยสันนิษฐานกันว่าอาจจะเป็นที่อเมริกากลางครับ ก็คือประเทศเม็กซิโก หรืออาจจะเป็นอเมริกาใต้ก็ได้นะครับ ในปีพ.ศ 2035 เนี่ยเมื่อคริสโตเฟอร์โคลัมบัสเนี่ยครับได้ค้นพบทวีปอเมริกา แล้วก็ได้พบกับเจ้าตัวเข้าโพดเป็นครั้งแรกนะครับก็เลยมีความคิดว่าจะเอาข้าวโพดเนี่ยครับกลับมาในทวีปอื่นๆนะ ต่อมาในปี พ.ศ. 2036 นะครับโคลัมบัสจึงนำข้าวโพดกลับมายังยุโรป แล้วข้าวโพดก็ขยายพันธุ์ต่อไปจนปัจจุบันนะครับนิยมปลูกอย่างแพร่หลายนะครับไม่ว่าในอเมริกา แคนาดา สามารถปลูกได้ในสภาวะที่ภูมิอากาศแตกต่างกันมากๆนะครับแถมยังเป็นแหล่งอาหารสำคัญของสัตว์ต่างๆนะเพราะสามารถนำมาเลี้ยงสัตว์ได้นะครับตั้งแต่ ต้น ใบ รวมถึงเมล็ดด้วยนะ ถือว่า ใช้ได้หมดเลย

ประวัติของข้าวโพดในประเทศไทย
ปัจจุบันนะครับเราก็อาจจะไม่ทราบแน่ชัดนะครับว่าบรรพบุรุษของเราเนี่ยรู้จักข้าวโพดตั้งแต่เมื่อไหร่นะครับถึงแม้จะมีนักค้นคว้าบางท่านนะครับพี่กล่าวว่าชนชาติไทยนะอาจจะรู้จักการปลูกข้าวโพดกันมาก่อนที่จะอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในแหลมทองเสียอีกนะ โดยบางส่วนนะครับก็สันนิษฐานว่าข้าวโพดมาจากอินเดีย ซึ่งก็ไม่มีหลักฐานยืนยันนะครับว่ามันจริงๆแล้วเนี่ยมันเป็นจริงหรือเปล่า แต่หลักฐานที่เป็นเอกสารเก่าแก่ที่พบนะครับก็คือจดหมายเหตุของลูแบร์(Monsieur De La Loubere) โดยชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาเมืองไทยสมัยนั้นนะครับก็ได้แก่ในยุคของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนะครับ ระหว่างปีพ. ศ. 2230-2231 โดยเขียนไว้ว่า คนไทยปลูกข้าวโพดแต่ในสวนเท่านั้น และการต้มกินหรือเผากินทั้งฝักโดยไม่ได้ปลอกเปลือก หรือกะเทาะเม็ดเสียก่อน”โดยคุณรู้ไหมเนี่ยครับก็ยังได้พูดอีกนะว่าข้าวโพดสาลีว่าเป็นอาหารเฉพาะพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้นนะครับ จดหมายตอนนี้นะครับก็เลยทำให้เราทราบได้ว่าข้าวโพดเนี่ยปลูกในไทยมาตั้งแต่สมัยนั่นแล้วนะครับ แต่ว่ามันก็เป็นการปลูกที่เป็นจำนวนน้อยมากๆนะครับเป็นพืชที่หายากแล้วก็แถมยังเป็นพืชหลวงอีกนะครับ ก็ทำให้ยิ่งมีข้อจำกัดในการปลูกเข้าไปใหญ่
แต่เนื่องจากว่าเจ้าตัวเขาโพดหน่อยครับเป็นพืชที่มีความเหมาะสมกับดินฟ้าอากาศของประเทศไทยมากๆ และยังมีการปรับตัวในสภาพอากาศต่างๆนะครับได้ง่ายนะดังนั้นในระยะเวลาต่อมานะครับออกไปอยู่จึงได้ขยายพันธุ์ในหมู่ประชาชนทั่วไปนะครับอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังไม่ได้มากมายอะไรนะเพราะว่าก็ยังไม่ใช่พืชหลักๆที่เรากินกันนะครับอย่างเช่นข้าวเจ้านะครับหรือขาวนี่แหละ ส่วนมากก็ยังปลูกในที่สวนแล้วก็ ในที่ดอนกันอยู่นะครับ หรือในที่ที่น้ำไม่ท่วมนะเพื่อเป็นการรับประทานแทนการกินข้าวเจ้านะครับในฤดูที่มันไม่มีอุทกภัยนะหรือในปีไหนแล้วครับที่มันทำนาไม่ได้นะครับ จึงทำให้ไม่ได้เป็นพืชเศรษฐกิจอะไรนะครับในช่วงแรกเพราะว่าไม่ได้ปลูกเยอะอะไรนะเพราะว่าส่วนมากๆแล้วก็กินแค่เฉพาะข้าวนะครับ
ในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 นะครับนับว่าเป็นยุคต้นของการกสิกรรมสมัยใหม่ของประเทศไทยหรือเรียกว่า การกิสกรรมบนดอน โดยที่มีนักเกษตรรุ่นแรกๆนะครับหลายท่านได้ไปศึกษาการทำเกษตรมาจากต่างประเทศนะครับและได้เห็นความสำคัญของการปลูกพืชไร่นะหรือพืชดอน เพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์นะครับและ เป็นการทำไร่นาผสมรวมถึงเป็นการบุกเบิกแนวใหม่ กสิกรรมในประเทศไทย ซึ่งในกรณีแน่นอนครับเราก็มีแต่ข้าวอย่างเดียวนะครับ ให้มีการเพาะปลูกที่หลากหลายมากขึ้นรวมถึงเป็นการผสมผสานระหว่างพืชไร่กับพืชดอนนะครับโดยเจ้าข้าวโพดถือว่าเป็นหนึ่งในพืชไร่ที่ได้รับการสนับสนุนในสมัยนั้น
แต่เดิมที่ปลูกข้าวโพดเนี่ยครับในประเทศไทยก็เป็นชนิดหัวแข็งแล้วก็มีสีเหลืองเข้มนะครับแต่เมล็ดมีขนาดเล็กมาก เป็นพันธุ์ที่นำมาจากอินโดจีนนะครับ ต่อมา ม.จ. สิทธิพร กฤดากร อธิบดีกรมการเพาะปลูก (กรมวิชาการเกษตรในปัจจุบัน) ก็ได้ลาออกนะครับไปทำ ไร่ส่วนตัวที่ตำบลบางเบิด อำเภอสะพานใหญ่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อประมาณปี พศ. 2463 ได้ทดลองสั่งพันธุ์ข้าวโพดไร่ชนิดหัวบุบ จากประเทศอเมริกา และได้ทดลองปลูกเป็นครั้งแรกในประเทศไทยจำนวน 2 พันธุ์ ก็คือ พันธุ์นิโคลสันเยลโลเดนต์ (nicholson's yellow dent) ซึ่งมีเมล็ดสีเหลือง และพันธุ์เม็กซิกันจูน (mexican june) ซึ่งมีเมล็ดสีขาว โดยได้ทำการเพาะปลูกที่ฟาร์มบางเบิด เมื่อปี พ.ศ. 2467 โดยใช้เมล็ดในการเลี้ยงไก่ขายส่งตลาดกรุงเทพฯ และเลี้ยงหมูสุกรขายให้ตลาดปีนัง นอกจากนี้ท่านยังได้ส่งไปขายเป็นอาหารไก่ในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย แล้วแถมนะครับเจ้า 2 พันธุ์ นี้ยังมีรายงานว่าขึ้นได้ดีมากๆในตอนนั้นอีกด้วยนะครับ

ต่อมาในปีพุทธศักราช 2469 ถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้า 1 ของเมืองไทยนะครับสำหรับเจ้าสัวข้าวโพดเนี่ยโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมของกระทรวงศึกษาธิการภายใต้การควบคุมของพระยาเทพศาสตร์สถิตย์ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลบางสะพานใหญ่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำการทดลองปลูกที่โรงเรียนนะครับแล้วก็ได้ผลดีมาก ต่อมานะครับโรงเรียนเนี่ยก็ย้ายไมาอยู่ที่ทับกวางนะครับจังหวัดสระบุรี และได้นำ 2 พันธุ์ นะครับมาปลูกแบบเป็นการค้านะโดยใช้เครื่องทุ่นแรงต่างๆในยุคนั้นนะครับ ปรากฏว่า ได้ฝักใหญ่ผลผลิตดี เพราะว่าเป็นดินที่เป็นดินใหม่นะครับ โดย หลวงชุณห์กสิกร บันทึกไว้ว่า ข้าวโพดพันธุ์ เม็กซิกันจูน ได้ทำการทดลองปลูกที่โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมทับกวางได้ผลเฉลี่ย 2300 ฝักต่อไร่ หรือเมล็ดแก่ 825 ปอนด์ต่อไร่ โดยพืชที่ปลูกระหว่างหลุมข้าวโพดมีฝักถั่วยาว ส่วนระหว่างแถวนะครับก็มีถั่วลิสงแล้วแถมยังมีพริกขี้หนูอีกต่างหากโดยดินเนี่ยแทบจะไม่รับการบำรุงจากปุ๋ยอะไรเลยนะครับ ในขณะนั้นนะครับก็ขายในราคาปอนด์ละ 10 สตางค์ ปรากฏว่าได้กำไรไร่ละ 30 บาทในสมัยนั้นก็ต้องถือว่าอาจต้องคูณ 20 ถึง 30 เท่าเลยนะครับสำหรับค่าเงินในสมัยนี้
ซึ่งต่อมานะครับโรงเรียนแห่งนี้นะก็ได้ทำการเพาะปลูกเชิงพาณิชย์มาเรื่อยๆนะครับก็เลยทำให้เมล็ดพันธุ์และแพร่หลายไปในทางจังหวัดใกล้เคียงนะครับไม่ว่าจะเป็นลพบุรีสระบุรีโคราช โดยโรงเรียนนะครับจะได้ทำการคัดสรรแล้วก็เก็บเมล็ดพันธุ์มา ไว้ใช้เองนะครับโดยมีชื่อที่คุ้นเคยกันและรู้จักกันในนาม ข้าวโพดฟันม้า และข้าวโพดพันธุ์ปากช่องนะครับ ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานนะที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้นะครับสำหรับคนไทย

ในระหว่างนั้นนะครับก็ได้มีการส่งเสริมบ้างนะครับก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ระยะเวลาที่ทำให้พืชไร่ของข้าวโพดจะได้เจริญเติบโตจริงในเมืองไทยเนี่ยก็เป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นะครับ โดยเฉพาะระยะหลังจากปีพ.ศ 2498 เป็นต้นมานะครับ เนื้อที่และเหตุผลของข้าวโพดได้เพิ่มจากปีพ.ศ 2488 หลายร้อยเท่านะครับและในปีพ.ศ 2508 นะว่าเป็นปีแรกที่ผลิตข้าวโพดเพิ่มขึ้นระดับหนึ่งล้านเมกะตันเลยทีเดียว จนส่งผลมาให้ถึงในปัจจุบันนี้นะครับได้ทำการปลูกอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
เป็นไงครับสำหรับตอนแรกของเราที่ได้ทำนะครับก็เป็นเล่าเรื่องความเป็นมานะครับสำหรับตอนต่อไปนะเราก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับ ประเภทของข้าวโพดนะครับ รวมถึงคุณค่าทางโภชนาการและอื่นๆ อีกมากมายนะครับถ้าใครสนใจก็ขอติดตามผลงานเราด้วยนะครับแต่สุดท้ายนี้เราก็ขออย่าลืมกดไลค์กดแชร์กด Subscribe ให้ช่องเราด้วยนะครับ วันนี้ก็สวัสดีครับ