ฝุ่นที่ใครๆก็รู้จักกัน เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ ทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ รวมถึง การสึกหรอ ต่อรถไถหรือแทรกเตอร์ นั่นเอง วันนี้ ช่อง อิเซกิ แมสซี่ย์ เจพีที แทรกเตอร์ จะมาไขข้อข้องใจ ว่ากรองอากาศเปียกหรือแห้ง ต่างกันยังไง ทำหน้าที่อะไรบ้าง ใส่อะไรก็พอ แต่ก่อนอื่นอย่างลืม กด like กด Share กับ subscribe ให้ช่องเราด้วยนะครับ เพราะช่องเราไม่มีแต่เรื่องรถไถนะค๊าบ

ทางเราจะมีกิจกรรมให้เล่นตอบคำถามสนุกๆ แจกเสื้อ 10 ตัวนะครับ โดยคุณแค่ตอบคำถามใต้คอมเม้น ว่า กรองเปียก หรือ กรองแห้ง อันไหนมีมาก่อนกันนะครับ โดยทางเราจะเฉลยคำตอบตอนท้ายคลิปนะครับผม

เรามาว่ากันเลยนะครับ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนนะครับ ว่ากรองอากาศ ของเครื่องยนต์ ทำหน้าที่อะไรนะครับ โดยปกติแล้ว กรองอากาศ จะทำหน้าที่กรองฝุ่นละออง หรือ เศษโลหะ และละอองน้ำเพื่อ เข้ามาในห้องเครื่องยนต์ ถ้าฝุ่นละอองหรือเศษโลหะ เข้ามาในเครื่องยนต์ ก็จะทำให้เครื่องยนต์เสียหายกันไชไหมละครับ ไม่ว่าจะต้อง Fit เครื่องใหม่ รวมถึงเครื่องยนต์ที่หลวม ทำให้ผลิตกำลังไม่ได้เต็มที่ และกินน้ำมัน อีกด้วยนะครับ พอเราทราบคร่าวๆ กันแล้วนะครับ ว่าเจ้าตัวกรองอากาศ ทำหน้าที่อะไร

กรองอากาศรถไถละ มีกี่ประเภท
กรองอากาศรถไถเนี่ยครับ มีอยู่ สอง ประเภทด้วยกันก็คือ
1.กรองอากาศแบบแห้ง
2.กรองอากาศแบบเปียก

ก่อนอื่น ต้องขอย้อนเล่าเกี่ยวกับลักษณะงาน ของรถไถบ้านเราก่อนนะครับ ว่าทำงานอย่างไร โดยปกติ แล้ว ในเมืองไทย งานที่เราใช้กันอยู่นอกจากไถ แล้วยังมีการดันดิน ที่ทำให้ฝุ่น คลุ้งขึ้นมาในตัวรถไถ

ผมขอเล่าเกร็ดความรู้ให้ฟังนะครับ คุณรู้หรือไม่ ใบดันดินที่เห็นกันอยู่ในบ้าน เรา ต่างๆประเทศไม่นิยมใช้กันนะครับ โดยเป็นการดัดแปลงจากฝีมือคนไทยนะครับ ถ้าอยากรู้เรื่องนี้ ผมจะทำเป็นอีกคลิปแยกไปเลยนะครับ ขอทั้งหมด 30 like ละกันนะครับ

นอกเรื่องไปนิดนึ่งย้อนกลับมานะครับ เรื่องเจ้ากรองอากาศกันต่อ โดยกรองแรกที่เราจะพูดถึงก็คือ

1.กรองอากาศแบบแห้ง
โดยเจ้าตัวกรองอากาศแบบแห้ง มีอยู่สองลักษณะนะครับก็คือ แบบ ชั้นเดียว และ แบบสองชั้น ลักษณะการกรองของกรองอากาศแบบแห้งก็คือ อากาศมีฝุ่นเข้ามา ->ผ่านกรองแห้ง->เข้าตัวเครื่องยนต์ โดยลักษณะดังกล่าว เราต้องมันใจให้ได้เลยนะครับ กรองอยู่ในสภาพสมบูรณ์เพื่อไม่ไห้ ฝุ่นเข้าเครื่องยนต์นะครับไม่ว่าจะเป็น ชั้นเดียวหรือสองชั้นนะครับ

โดยข้อดีของเจ้ากรองอากาศแบบแห้งก็คือ

-เปลี่ยนง่ายนะครับไม่ซับซ้อน
-ราคาไม่สูงนะครับ
-การดูแลรักษา ไม่ยากจนเกินไป

ข้อเสีย

-ต้องทำการเป่ากรอง เป็นประจำ
-ถ้ากรองแห้ง เสื่อมสภาพ ก็จะดักฝุ่นได้น้อยหลงอย่างชัดเจน

2.กรองอากาศแบบเปียก

โดยเจ้าตัวกรองอากาศแบบเปียก จะมีโครงสร้าง คือ

-มีกรองแก้วดักฝุ่น นะครับ ที่ทำหน้าที่ดักฝุ่นขนาดใหญ่ ประมาณ 1-2%
-กรองเปียก (อ่างน้ำมันเครื่อง) โดยอากาศที่ผ่าน กรองแก้วดักฝุ่นมาแล้ว ก็จะตกลองมาที่ กรองเปียก โดยใช้ น้ำมันเครื่องโดย เป็นตัวจับฝุ่นที่เหลือเข้าเครื่องยนต์ต่อไปนะครับ

แต่ในปัจจุบัน รถไถที่ใส่กรองเปียก ทุกยี่ห้อ ก็ต้องมี กรองแห้งอยู่แล้วนะครับ ทำให้ ระบบการทำงาน ของรถไถที่ติด กรองอากาศแบบเปียก และแบบแห้งคือ มีกรองแก้วดักฝุ่น(1-2%ฝุ่นขนาดใหญ่) → กรองเปียก(อ่างน้ำมันเครื่อง)(95-97%ฝุ่นขนาดกลาง) --->กรองแห้ง (2-3%ฝุ่นขนาดเล็ก)

อ่าจากที่ผมได้พูดถึง ระบบการทำงานไปแล้วอะนะครับ เราก็จะว่าถึงข้อดีข้อเสียของเจ้าตัว กรองอากาศเปียกกันเลย

ข้อดี

-ดักฝุ่นได้ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนะครับเพราะเจ้าตัวกรองเปียก ดักฝุ่นขนาดใหญ่และขนาดกลางไปให้แล้วนะครับผม
-ประหยัดมากขึ้น (เนื่องจาก กรองฝุ่นให้กับ กรองแห้งไปแล้วประมาณ 98%)โดยไม่ต้องเปลี่ยนกรองแห้งบ่อย รวมถึงสามารถ ใช้น้ำมันเครื่องเก่าที่ไม่เสื่อมสภาพจนเกินไป มาเป็นตัวกรองอีก ทำให้ประหยัดนั่นเอง

ข้อเสีย

-ราคาที่สูง ในการติดตั้งกรองเปียก นะครับ มีราคาที่สูงนะครับ โดยปกติ ราคากรองเปี๊ยก ก่อนติดตั้ง อย่างน้อยก็ต้องมี หลักหลายพัน จนถึง หลัก หมื่นบาทนะครับ นิคือข้อเสียข้อแรกนะครับ
-ท่อลำเลียงอากาศต้องมีเหมาะสม ผมจะขออธิบาย อย่างนี้นะครับ โดยปกติแล้ว หลังจากที่ อากาศผ่านกรองแก้ว และกรองเปียกแล้วขนาดของ ท่อลำเลียงต้องใหญ่พอ เพื่อทำหน้าที่ดูดอากาศ เข้าไปได้อย่างเหมาะสม ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ก็จะทำให้เครื่องยนต์ สูญเสีย กำลังได้ รวมถึง อาจจะทำให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนให้ห้องเครื่องสูงขึ้นไปอีกด้วยนะครับ ยิ่งถ้าเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบว์ ด้วยแล้ว กำลังยิ่งตกกันเลยนะครับ ถ้าใครอยากรู้เรื่องเทอร์โบว์ ประหยัดจริงไหม ผมได้ทำคลิป ไว้ให้แล้ว สามารถ กดคลิ๊กมุมบนด้านขวา เพื่อไปรับชมกันได้เลยนะครับ

เป็นไงก็บางครับสำหรับวันนี้ ตอนนี้ก็ถึงช่วงท้ายกันแล้วนะครับ ผมก็ขอเฉลยกันเลยนะครับ ว่าในอดีต กรองเปียก หรือ กรองแห้งมาก่อนกัน นั่นก็คือ กรองเปียก มาก่อนนะครับ แต่เรื่องปี พ.ศ. ผมไม่สามารถหาข้อมูลมาได้ชัดเจนนะครับ โดยเกณฑ์ที่ผมใช้ก็คือ เจ้าตัวกรองเปียก ติดตัวรถไถ มาก่อนตัวกรองแห้งนั้น เอง โดยสาเหตุหลักๆ ที่ผู้ผลิตรถไถ เลิกใช้เจ้ากรองแห้ง ก็คือ หลังจากเทคโนโลยี วัสดุ ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้ใช้ ระบบกรองอากาศแห้ง ที่มีราคาที่ต่ำกว่า และติดตั้งง่ายกว่า รวมถึง ในต่างประเทศ ทั่วๆไป ไม่ได้ใช้รถไถในกันดันดิน และลักษณะดินของทางต่างประเทศก็ไม่ได้เป็นฝุ่นคลุ้งเหมือนบ้านเราอีกด้วย จึงไม่มีความจำเป็นต้องติดกรองเปียกเพิ่มขึ้นมา นะครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับวันนี้ ถ้าชอบคลิ๊ปนี้ ก็ กด like กด Share กด subscribe เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะครับ ถ้าอยากทำอะไรให้เราเพิ่มเติม สามรถ บอกเรามาได้เลยใน คอมเม้นนะครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีค๊าบบ